รีวิว เที่ยวเวียดนามกลาง โดยทางรถยนต์ ?

ทริปเที่ยวเวียดนามกลาง นครดานัง- เมืองตากอากาศ เขาบาน่าฮิลล์ – เมืองเก่าโบราณฮอยอัน นั่งเรือกระด้ง – นครเว้ – พระราชวังไดนอย - วัดเจ้าแม่กวนอิม 

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเดินทาง

1. หนังสือเดินทางพาสปอร์ต ที่อายุเหลือมากก่า 6 เดือนนับจากวันเดินทาง (สำคัญมาก)

2. จองทัวร์ จองโรงแรม ที่เราเชื่อถือไว้

3. เงินบาทไทย สามารถไปแลกเงินด่องได้ที่แดนสะหวัน(ลาว) และ ด่าน Lao Bao (เวียดนาม) ได้ แต่แนะนำให้แลกกับไกด์นำเที่ยวดีกว่า เมื่อใช้เงินด่องไม่หมดสามารถแลกเงินได้ ไม่เสียเปรียบค่าเงิน  

เกริ่นนำ

ผู้เขียนยังไม่เขียนเคยไปเที่ยวประเทศเวียดนามเลย สักครั้ง เลยอยากไปเที่ยวเวียดนามบ้าง ตามคำแนะนำของใครหลายๆ คนที่รู้จักบอกว่าไปเวียดนามกลาง ที่มีนครดานัง  เมืองเว ้ ฮอยอัน บาน่า ฮิลล์  เลยทำการจองทัวร์ซะเลย แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ไปทางเครื่องบิน แต่ไปทางรถยนต์ของทางทัวร์เพื่อความสะดวกในการเข้า ตม.ด้วย

เริ่มเดินทาง

 การเดินทางด้วยรถยนต์ จะขึ้นรถทัวร์ของทางทัวร์นะครับ แบบรถทัวร์สไตล์เวียดนามแบบดีเลย จะเข้าไปทางด่านตม.ไทย ฝั่งจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งจะทำการเข้าแถวเพื่อปั๊มขาออก บน Passport   ซึ่งทาง ตม.ไทยเข้มงวดมาก เมื่อทำการตรวจแล้ว 

โดยจะใช้ถนนที่เรียกกันว่า “ทางหลวงหมายเลข 9”   เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจที่จะเป็นหัวใจของความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและเพื่อนบ้าน ทางฝั่งจังหวัดมุกดาหารของไทย แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว จนถึงด่าน Lao Bao ยันเวียดนาม  

ขึ้นรถเดินทางต่อ เดินทางข้ามสะพานแม่น้ำโขง มุ่งหน้าสู่ แขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว  ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง สปป.ลาว เช่นกันโดยลงจากรถ เท่านั้น (ทางไกด์จะดำเนินการเพื่อปั๊มขาเข้า บน passport ให้) นี้คือข้อดีของการมีจองทัวร์ เมื่อทำการตรวจแล้วเดินทางต่อ ผ่านแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว ท่านสามารถดูข้างทางชีวิตความเป็นอยู่ บ้านเรือนของชาวสปป.ลาว เป็นแบบไหนบ้าง โดยทางไกด์บอกว่า จะดูยังไงว่าบ้านไหนรวย บ้านไหนจน ให้ดูที่การสร้างบ้าน ถ้าบ้านที่มีการต่อเติมด้วยการนำปูนซีเมนต์มาใช้ทำบ้านเท่ากับว่าบ้านนั้นรวย ส่วนบ้านที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังจะถือว่าจน เพราะรัฐสปป.ลาว ให้สามารถตัดต้นไม้ในที่ของตัวเองสร้างบ้านได้  

จากด่านสะหวันนะเขตถึงด่านแดนสะหวัน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองกวางตรี ประเทศเวียดนาม ระยะทางโดยประมาณ 250 กิโลเมตรด้วยกัน ระหว่างทางสามารถแวะเข้าห้องน้ำได้ มีที่สถานที่พักรถเหมือนกัน ห้องน้ำอาจะไม่ได้ดี สะอาดอะไรมาก แต่เข้าได้ ค่าเข้า 5 บาทไทย (คนลาวพูดไทยได้) ไม่ต้องห่วงเรืองภาษานะครับ จากนั้นก่อนเข้าด่านถึงด่าน แดนสะหวัน(ลาว) และ ด่าน Lao Bao (เวียดนาม) แวะกินข้าวจะมีร้านอาหารที่ดังที่สุด (ร้านอาหารเหมือนร้านทั่วไปของไทย) อาหารหลักคือ ใข่เจียว  ฯลฯ 555

พอถึง ถึงด่าน แดนสะหวัน(ลาว) และ ด่าน Lao Bao (เวียดนาม) แล้ว คือด่านนี้จะเป็นด่านที่มี ตม. สองประเทศอยู่ด้วยกันเป็นอะไรที่ดีมาก ไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจคนเข้าเมืองเลย ทางทัวร์จะจัดการให้หมดเลย เราสามารถลงไปถ่ายรูปได้เลย ระหว่างทางไกด์กำลังดำเนินการให้เรา พอเสร็จจะมี ตำรวจขึ้นตรวจบนรถทัวร์ว่ามีใครน่าสงสัยไหม ลักลอบเข้าเมืองหรือเปล่า  ด่านนี้สามารถไปแลกเงินด่องได้เลยมีธนาคารเคลือนที่ จากเงินบาทไทยเป็นเงินด่อง เราจะได้มีเงินล้าน เงินแสนใช้กัน งั้นไปกันต่อเลย  

เดินทางต่อไปยังเมืองเว้  ประเทศเวียดนามแล้ว โดยทำการพักที่เมืองเว้ก่อนนะครับ ซึ่งมีที่เที่ยวเยอะเหมือนกัน เช่น วัดเที่ยนมุ หรือเทียนมู่ , พระราชวังไดนอยหรือพระราชวังเว้ ,ล่องเรือแม่น้ำหอม ชมบรรยากาศและ ชีวิตความเป็นอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำซึ่งมีความกว้างพอๆกับแม่น้ำเจ้าพระยา  เก็บภาพความประทับใจได้เลย 

เดินทางต่อไปยังเมืองดานัง เป็นเมืองแห่งหาดทรายขาวและภูเขา หินอ่อน เป็นเมืองท่าที่สำคัญและใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเวียดนาม เมืองนี้เจริญและเติบโตมาจากหมู่บ้านชาวประมง จนกลายเป็นเมืองที่สำคัญปัจจุบัน เมืองดานังเป็นเมืองที่เร่งพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก เมืองสะอาดมากน่าอยู่

เดินทางผ่านอุโมงค์ไฮเหวิ่น ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่มีความยาวที่สุดในแถบอาเซียนด้วยความยาวประมาณ 6 ก.ม. อุโมงค์แห่งนี้ได้เจาะทะลุเขาไฮเหวิ่น (Hai Van) แปลว่า ช่องเขาแห่งเมฆหมอก ซึ่งเป็นส่วน หนึ่งของทิวเขา Truong Son ที่ทอดตัวยาวตัดถนนทางหลวงลงสู่ทะเลเลยทีเดียว และจะไม่ให้รถมอเตอร์ไซด์ผ่าน หากใครต้องการผ่านไปอีกฝั่งหนึ่งจะต้องใช้บริการถบรรทุกมอเตอร์ไซด์ ราคาอยู่ที่ประมาณ 700-800 บาทไทยเลยทีเดียว และจะมีการทำความสะอาดทุกวันในเวลา 13.15-13.45 จะทำการปิดอุโมงค์เลยทีเดียว สร้างโดยออกแบบโดยรัฐบาลญี่ปุ่นแบบฟรี แต่ขอดินที่เจาะนี้ไปใช้งานถมทะเลในญี่ปุ่นแทน

ถึงเมืองดานัง รับประทานอาหาร ก่อนเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อน ท่านใดสนออกเที่ยวเวลากลางคืนมีทั้งบ่อนกาซิโน ที่กินเหล้าเบียร์ ซึ่งเบียร์จะถูกมาก แนะนำเลย  (เบียร์ชื่อตามเมืองนั้นๆ) เทียบรสชาดกับลีโอ ช้างสมัยก่อนได้เลย  เมืองนี้ท่านสามารถเที่ยวได้หลายๆที่เดี๋ยวทางผู้เขียนจะมาแนะนำแต่ละที่เลย ในส่วนที่ผู้เขียนได้เดินทางไปนะครับ เช่น เยี่ยมชมหมู่บ้านหินอ่อน เมืองโบราณฮอยอัน เมืองแห่งมรดกโลก วัดฟุเกวี๋ยน นั่งเรือกระด้ง 

เดินทางสู่เมืองบาน่าฮิลล์ เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้า ขึ้นไปเมืองบาน่าฮิลล์ เป็นเมืองฝรั่งเศสในเวียดนาม โดยจะนั่งกระเช้าลอยฟ้าเที่ยวเมืองในฝัน ต้องเข้าแถวยาวมาก คนเยอะมาก ส่วนมากคนไทย จีน เกาหลีโดยจะทำการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกจะไปชมสะพานมือ ก่อน จากนั้นขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ต่อไปชม เมืองบาน่าฮิลล์ บนหุบเขาสูง อากาศดี   ชิลไปอีกแบบ เหมาะกะการถ่ายรูป ชมการแสดงต่างๆ สวยงามมาก มีอาหารขายแบบบุฟเฟต์ อร่อยมากบอกเลย พอถึงเวลาลงกระเช้าลอยฟ้า ก็ลงเหมือนเดิม  เราต้องไม่กลัวความสูงนะครับ บอกเลย

สถานที่ต่างๆที่ผู้เขียนไปจะทำการแยกซอบย่อยออกไปที่ละที่ ที่ละภาคให้ดูนะครับ โปรดติดตามด้วยครับ  

เดินทางกลับเส้นเดิม ปลอดภัย อาจะจได้ยินเสียงแตรรถบ่อยอย่าลำคาญละ เพราะมันเป็นเรื่องปกติของที่นี้ ใครใจกล้าไปก่อนใครไม่ใจค่อยไป 

ขอบคุณภาพจากหลายๆภาพจากทุกๆ มุมโลก เพราะผู้เขียนยังไม่ได้เอารูปออกจากกล้อง ขอบคุณอีกครั้งครับ