11 ที่เที่ยวจังหวัดศรีสะเกษที่ต้องไปให้ได้ !!!!



1.  ผามออีแดง 




นับเป็นจุดชมวิวในมุมสูงที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคอีสานเลยทีเดียว ผามออีแดงตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะทางประมาร 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพของแผ่นดินประเมสกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไปเป็นมุมกว้าง
บริเวณผามออีแดงมีภาพแกะสลักนูนต่ำเป็นภาพคน 3 คน ในเครื่องแต่งกายแบบชาวกัมพูชา สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 อายุประมาณ 1,500 ปี มีโบราณวัตถุ พระพุทธรูปนาคปรก มีบันไดลงไปชมภาพแกะสลักนูนต่ำบนผนังหินทรายอยู่ใต้หน้าผา หันหน้าไปทางทิศตะวันออก บริเวณจุดสูงสุดของผามออีแดงสามารถมองเห็นทัศนียภาพของปราสาทเขาพระวิหารได้อย่างชัดเจน




2. วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว



วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อวัดล้านขวด ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านดอน ตำบลโนนสูง อำเภอบุญหาญ ที่มาของชื่อวัดล้านขวดนี้มาจากอาคารต่าง ๆ ภายในวัดตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า, ลานจอดรถ, โบสถ์, ศาลา, หอระฆัง, กุฏิ รวมไปถึงห้องน้ำภายในวัด ล้วนประดับตกแต่งไปด้วยขวดแก้วหลากหลายสีสันกว่า 1.5 ล้านใบ


3. วัดมหาพุทธาราม





วัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาก่อนเมืองศรีสะเกษ โดยเดิมเรียกว่า "วัดป่าแดง" ตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีสะเกษ โดดเด่นด้วยวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง คือ "หลวงพ่อโต" เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร เดิมเป็นพระพุทธรูปศิลาจำหลัก สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยขอมและมีอายุร่วมกว่าพันปี ซึ่งภายหลังได้ถือเอาพระพุทธรูปโบราณศักดิ์สิทธิ์เป็นสำคัญ จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดพระโต" ตามลักษณะของพระพุทธรูป  จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2494 ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดมหาพุทธาราม" และได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย



4. วัดพระธาตุสุพรรณหงส์





วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ หรือวัดบ้านหว้าน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหว้าน ตำบลน้ำคำ อำเภอเมือง ตั้งอยู่ห่างจาก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 กิโลเมตร อีกหนึ่งวัดสวยที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยความโดดเด่นของพระอุโบสถที่ก่อสร้างบนเรือสุพรรณหงส์จำลอง ลอยอยู่กลางน้ำอย่างสวยงามแปลกตา ตัวพระอุโบสถกว้าง 5 เมตร ยาว 13.60 เมตร หลังคาทรงจัตุรมุข 3 ชั้น มียอดมณฑปกลางอุโบสถ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และด้วยความสวยงามโดดเด่นของวัดแห่งนี้จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม



5. น้ำตกสำโรงเกียรติ




น้ำตกสำโรงเกียรติ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ  81 กิโลเมตร ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าพนมดงรัก หมู่บ้านสำโรงเกียรติ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ ชื่อเดิมของหนึ่งตกแห่งนี้ออกจะน่ากลัวนิด ๆ กับ "น้ำตกปีศาจ" ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งตามหน่วยทหารพรานชื่อ "หน่วยปีศาจ" ที่ได้ใช้บริเวณน้ำตกตั้งเป็นฐานที่ตั้งหน่วยปฏิบัติการ จากนั้นในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวพร้อมเปลี่ยนชื่อน้ำตกตามชื่อหมู่บ้านว่า "น้ำตกสำโรงเกียรติ" ในปัจจุบัน




6. ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษ



ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษ  (Sisaket Aquarium) แหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้สำคัญสำหรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ในท้องที่ตำบลหนองครก อำเภอเมือง อีกทั้งยังเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งแรกในภาคอีสานตอนใต้ด้วย
ภายในอาคารมีการจัดแบ่งโซนเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งโซนปลาทะเล, ปลาน้ำจืด และปลาสวยงามด้วยพันธุ์ปลากว่า 100 ชนิด จัดอยู่ในตู้ปลาตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงตู้ปลาขนาดจอภาพยนตร์ โดยแต่ละตู้จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับปลาชนิดนั้น ๆ ไว้ให้อ่านให้ได้ความรู้ และเพลิดเพลินไปกับการชมปลาแหวกว่ายอยู่ภายในตู้ ส่วนไฮไลท์หลักที่ได้รับความสนใจคืออุโมงค์แก้วใต้น้ำ ระยะทาง 24 เมตรที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสความสวยงามของปลาอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ดำน้ำและให้อาหารปลาจากเจ้าหน้าที่



7. ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่




ตั้งอยู่ภายในวัดสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย มีลักษณะโดดเด่นด้วยปราสาทขอมขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุด สร้างขึ้นในสมัยบาปวน-บายน ในพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นเทวาลัยถวายพระศิวะตามความเชื่อของศาสนาฮินดู มีลักษณะเป็นพระปรางค์ 3 องค์ ตั้งเรียงกันในแนวทิศเหนือ-ใต้ หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก ปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลางก่อสร้างด้วยหินทราย มีอิฐแซมบางส่วน บริเวณส่วนบนมีทับหลังจำหลักภาพพระอินทร์ทรงช้างบนแท่นเหนือหน้ากาล ส่วนปรางค์อีก 2 องค์ สร้างด้วยอิฐ มีส่วนประกอบตกแต่งที่เป็นหินทราย


          โดยสิ่งก่อสร้างทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยระเบียงคดรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าก่อด้วยศิลาแลง และศิลาทราย กว้าง 54 เมตร ยาว 62 เมตร มีโคปุระ หรือซุ้มประตู ทั้ง 4 ทิศ ซึ่งปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็น วัดในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน


8. หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ





หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ หอคอยสูงสำหรับชมวิวสวยของตัวเมืองศรีสะเกษ ตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ถนนขุขันธ์ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น. โดยเสียค่าบำรุงสถานที่ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท 



9. พระธาตุเรืองรอง



พระธาตุเรืองรอง ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านสร้างเรือง หมู่บ้านสร้างเรือง ตำบลหญ้าปล้อง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7.5 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยหลวงปู่ธัมมา พิทักษา เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สำหรับให้ชาวพุทธในถิ่นอีสานใต้ได้มาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีลักษณะเป็นอาคารที่ผสมผสานศิลปะแบบอีสานใต้จาก 4 เผ่า ได้แก่ ลาว, ส่วย, เขมร และเยอ



10. สวนสมเด็จศรีนครินทร์





เป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 80 พรรษา แห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ถนนกสิกรรม ตำบลหนองครก อำเภอเมือง มีเนื้อที่ 237 ไร่ ภายในบริเวณสวนโดดเด่นด้วยต้นลำดวน ต้นไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ที่ขึ้นตามธรรมชาติมากกว่า 50,000 ต้น ขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นดงใหญ่ แถมยังเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการมาทัศนศึกษาในเชิงพฤกษศาสตร์ ซึ่งต้นลำดวนถือเป็นพันธุ์ไม้หอม จะผลิดอกหอมอบอวลไปทั่วในราวเดือนมีนาคมของทุกปี และเนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีความเกี่ยวพันกับชื่อศรีนครลำดวนในอดีต จึงได้นำเอาต้นลำดวนมาเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดในปัจจุบัน



11. วัดไพรพัฒนา หลวงปู่สรวง ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ



วัดไพรพัฒนา เดิมทีเป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวง นักบุญแห่งดินแดนอีสานใต้ พระผู้บำเพ็ญเพียรตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา อันมีเมตตาบารมีช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนเป็นที่รักและศรัทธาของผู้คน รวมไปถึงลูกศิษย์ลูกหาทั่วไป จนเป็นที่เรียกขานกันว่า “เทวดา เดินดิน” ภายหลังจากที่หลวงปู่ละสังขารเมื่อปี 2542 สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เปื่อยไม่เนา จนลูกศิษย์ได้นำไปบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาและนักท่อนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพรและลอดใต้โลงแก้วเพื่อความเป็นสิริมงคล


ขอบคุณทุกรูปภาพ ทุกข้อมูลดีๆ  ครับผม แหล่งท่องเที่ยวยังมีอีกเยอะ เอาเท่าที่ผู้เขียนเคยไปเบื้องต้นนะครับ (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ บางสถานที่ไปตอนเด็ก ส่วนแหล่งท่องเที่ยวใหม่สามารถหาชมได้ในบล็อกนี้เลยครับ )